โรคอะไรที่ทำให้แมวไอ หอบ หายใจแรง ?
โรคที่พบบ่อยในแมวที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว ได้แก่
- โรคหอบหืดในแมว (Feline Asthma): เป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรังคล้ายกับโรคหอบหืดในคน เกิดจากการอักเสบของหลอดลม ทำให้หลอดลมหดตัวและเกิดอาการไอ หอบ หายใจลำบาก มักพบในช่วงอายุ 1- 6 ปี
- โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ: เช่น ไข้หวัดแมว ซึ่งเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุในจมูก คอ และทางเดินหายใจส่วนบน มักพบในช่วงทุกอายุ หากได้รับการป้องกันโดยการฉีดวัคซีนจะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้
- ภาวะหัวใจล้มเหลว: ทำให้ของเหลวคั่งในปอด ส่งผลให้แมวหายใจลำบาก มักพบในช่วงอายุ 1- 6 ปี
- เนื้องอกในปอดหรือทรวงอก: อาจกดทับทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก มักพบอายุ 1 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสลิวคิเมีย
- สิ่งแปลกปลอมอุดตันทางเดินหายใจ: เช่น วัตถุขนาดเล็ก
- ปัญหาเกี่ยวกับหลอดอาหาร: เช่น มีการสำรอกบ่อยๆ อาจทำให้เศษอาหารตกลงในหลอดลมและปอดได้ และจะเกิดอาการไอตามมา
แมวใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคนี้ ?
- ทุกเพศทุกวัย: แมวทุกเพศทุกวัยสามารถเป็นโรคนี้ได้
- สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยง
สายพันธุ์ที่มีใบหน้าแบน: เช่น เปอร์เซีย สก็อตติชโฟลด์ เอ็กโซติก ช็อตแฮร์ มีความเสี่ยงสูงกว่าเนื่องจากมีทางเดินหายใจแคบสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดโรคหัวใจ : เช่น เปอร์เซีย สก็อตติชโฟลด์ เมนคูน สฟิงซ์ เบงกอล มันช์กิ้น
- แมวที่มีประวัติแพ้: เช่น แพ้ละอองเกสร ฝุ่น หรือขนสัตว์
- แมวที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ: เช่น ควันบุหรี่ ควันพิ
- การเลี้ยงแมวหลายตัว: อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น
อาการอื่นๆ ที่พบร่วมด้วยนอกจากอาการไอ หอบ หายใจแรงแล้ว แมวยังอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ซึม: ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- เบื่ออาหาร: ไม่ยอมกินอาหาร
- น้ำหนักลด: ผอมลง
- มีไข้: ร่างกายร้อน
- มีเสมหะ: ไอออกมาเป็นเสมหะ
- หายใจมีเสียงหวีด: เกิดจากการตีบของหลอดลม
วิธีการวินิจฉัยสัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจฟังเสียงปอด และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น
ตรวจเลือด: เพื่อตรวจหาการติดเชื้อ หรือภาวะผิดปกติอื่นๆ
เอกซเรย์ทรวงอก: เพื่อดูความผิดปกติของปอด หัวใจ หรืออวัยวะอื่นๆ
อัลตร้าซาวด์: เพื่อตรวจดูรายละเอียดของอวัยวะภายใน
การส่องกล้อง: เพื่อดูภายในทางเดินหายใจ
วิธีการรักษาการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค เช่น
- โรคหอบหืด: ให้ยาขยายหลอดลม ยาแก้อักเสบ และหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น
- โรคติดเชื้อ: ให้ยาปฏิชีวนะ
- ภาวะหัวใจล้มเหลว: ให้ยาปรับการทำงานของหัวใจ
- เนื้องอก: การผ่าตัด หรือเคมีบำบัด
การดูแลแมวที่ป่วย
- ให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่ง: ควรให้ยาตรงเวลาและปริมาณที่ถูกต้อง
- สร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาด: เปลี่ยนทรายแมวบ่อยๆ ทำความสะอาดที่นอน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น: เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่น ละอองเกสร
- ให้ความอบอุ่น: โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศหนาว
- ให้กำลังใจอันนี้ก็สำคัญ: พูดคุยกับแมวบ่อยๆ ลูบคลำ เพื่อให้แมวรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
การป้องกัน- ฉีดวัคซีน: เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ
- ตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ: พาแมวไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ
- ให้อาหารที่มีคุณภาพ: เลือกอาหารแมวที่เหมาะสมกับอายุและสภาพร่างกาย
- ดูแลสุขอนามัย: ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของแมวเป็นประจำ
อาหารแมวป่วยทางเดินหายใจสำหรับแมวที่ป่วยทางเดินหายใจ ควรให้อาหารที่
- ย่อยง่าย: เพื่อลดภาระของระบบทางเดินอาหาร
- มีโปรตีนสูง: เพื่อช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- มีไขมันต่ำ: เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลว
- มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน: เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
คำแนะนำเพิ่มเติม- ปรึกษาสัตวแพทย์: หากแมวของคุณมีอาการไอ หอบ หรือหายใจแรง ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง
- เลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคแมว: เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุด
- ให้ความรักและดูแลเอาใจใส่: การดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของจะช่วยให้แมวหายป่วยเร็วขึ้น
บทความนี้ได้ครอบคลุมข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่ทำให้แมวไอ หอบ หายใจแรง ตั้งแต่สาเหตุ อาการ วิธีการวินิจฉัย การรักษา และการดูแล
หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาสัตวแพทย์ได้ที่โรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์
หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากสัตวแพทย์