สาเหตุที่ทำให้แมวร้องเวลาปัสสาวะ
- โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ทำให้แมวรู้สึกเจ็บปวดเวลาปัสสาวะ
- นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ: นิ่วที่เกิดขึ้นในกระเพาะปัสสาวะอาจอุดตันท่อปัสสาวะ ทำให้แมวปัสสาวะไม่ออก
- การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ: แบคทีเรียหรือเชื้อราอาจเข้าไปติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการอักเสบและปวด
- ความผิดปกติทางกายวิภาค: เช่น ความผิดปกติของท่อปัสสาวะ หรือเนื้องอก
- ความเครียด: ความเครียดสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคทางเดินปัสสาวะได้
แมวกลุ่มไหน แมวมีอายุเท่าไหร่ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้แมวทุกสายพันธุ์และทุกเพศ สามารถเป็นโรคนี้ได้ แต่แมวเพศผู้ที่ทำหมันแล้วมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้มากกว่า
- อายุ: แมวทุกวัยสามารถเป็นโรคนี้ได้ แต่พบมากในแมววัย อายุช่วง 1-7ปี
- ปัจจัยเสี่ยง: ความเครียด เช่น การเลี้ยงแมวหลายตัว หรือการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม เช่น การมีแมวตัวใหม่เข้ามา ส่งผลถึงปัญหาพฤติกรรมแมวในการกินอาหาร การดื่มน้ำ การขับถ่ายและการปัสสาวะ
อาการอื่นๆ ที่พบร่วมด้วย- เลียบริเวณอวัยวะเพศบ่อย
- ปัสสาวะเป็นเลือด
- ปัสสาวะบ่อยแต่ปริมาณน้อย
- ร้องเสียงดังเวลาเข้าห้องน้ำ
- ซึม ไม่กินอาหาร
วิธีการวินิจฉัย- ตรวจปัสสาวะ: เพื่อตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย ตะกอนนิ่ว หรือเลือด และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ
- อัลตร้าซาวด์: เพื่อตรวจดูขนาดและรูปร่างของกระเพาะปัสสาวะ ตรวจหานิ่ว หรือความผิดปกติอื่นๆ
- เอกซเรย์: เพื่อตรวจหาความผิดปกติของกระดูกหรืออวัยวะภายใน
- ตรวจเลือด: เพื่อตรวจสุขภาพโดยรวมของแมว เช่น โรคไตที่เกิดแทรกซ้อน
วิธีการรักษา- ยาปฏิชีวนะ: สำหรับการรักษาการติดเชื้อ
- ยาแก้ปวด: เพื่อบรรเทาอาการปวด
- อาหารแมวป่วยทางเดินปัสสาวะ: เพื่อช่วยลดการเกิดนิ่วและรักษาค่า pH ของปัสสาวะ
- การผ่าตัด: ในกรณีที่มีนิ่วอุดตัน หรือมีความผิดปกติทางกายวิภาค
- การรักษาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดค่าใช้จ่ายในการรักษา
การดูแลแมวที่ป่วย- ให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่ง: ควรให้ยาตรงเวลาและปริมาณที่ถูกต้อง
คำเตือน: อย่าให้ยาเอง ควรให้ยาตามที่สัตวแพทย์สั่งเท่านั้น - ให้อาหารตามที่สัตวแพทย์แนะนำ: อาหารที่เหมาะสมสำหรับแมวที่มีปัญหาทางเดินปัสสาวะจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคซ้ำ
- ให้แมวดื่มน้ำสะอาดมากๆ: การดื่มน้ำมากจะช่วยชะล้างสารพิษและลดความเข้มข้นของปัสสาวะ เพิ่มจุดวางน้ำให้น้องแมว หรือจัดหาน้ำพุแมว
- ลดความเครียด: สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและปลอดภัยให้กับแมว เช่น การจัดหาจำนวนกระบะทรายให้เพียงพอ ทำความสะอาดกระบะทรายอยู่บ่อยๆ เพิ่มขนาดและพื้นที่เลี้ยงให้มากขึ้น ไม่ควรเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมบริเวณที่เลี้ยงบ่อย
- พาแมวไปพบสัตวแพทย์ตามนัด: เพื่อติดตามอาการและปรับเปลี่ยนแผนการรักษา
การดูแลแมวที่ป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้แมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
การป้องกัน- ให้อาหารที่มีคุณภาพ: เลือกอาหารที่เหมาะสมกับอายุและสายพันธุ์ของแมว
- ให้แมวดื่มน้ำสะอาดเพียงพอ: เปลี่ยนน้ำในภาชนะดื่มบ่อยๆ
- รักษาความสะอาดของกระบะทราย: ทำความสะอาดกระบะทรายเป็นประจำ
- พาแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ: เพื่อตรวจหาโรคในระยะเริ่มต้น
หากแมวของคุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง