แมวอายุเท่าไหร่ถึงเรียกว่า "แก่" ?
แมวจะเริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์ก็เทียบเท่ากับวัยประมาณ 60 ปีขึ้นไป นั่นหมายความว่า ระบบร่างกายของพวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและพฤติกรรมของแมว
การเปลี่ยนแปลงของแมวสูงวัยที่เจ้าของควรรู้
เมื่อแมวอายุมากขึ้น เจ้าของอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น:
- การเคลื่อนไหวช้าลง – ข้อต่อเริ่มเสื่อมทำให้แมวไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเดิม
- น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลง – อาจมีแนวโน้มอ้วนขึ้นหรือผอมลงขึ้นอยู่กับระบบเผาผลาญ
- พฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป – อาจกินน้อยลงเนื่องจากฟันหรือระบบย่อยอาหารเริ่มเสื่อม
- ขนและผิวหนังเปลี่ยนแปลง – ขนเริ่มบางลงหรือหยาบขึ้น
พฤติกรรมขี้อ้อนหรือเก็บตัวมากขึ้น – อาจเกิดจากอาการปวดข้อต่อหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ
วิธีดูแลแมวสูงวัยให้มีความสุขและสุขภาพดี- พาไปตรวจสุขภาพประจำปี – ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อตรวจเช็กสุขภาพและป้องกันโรค แนะนำให้พาไปตรวจกับคลินิกโรคแมว(Cat Friendly Clinic)โดยเฉพาะ
- อาหารสำหรับแมวสูงวัย – เลือกอาหารที่เหมาะกับวัยเพื่อลดความเสี่ยงของโรคไต เบาหวาน และโรคอ้วน
- กระตุ้นการเคลื่อนไหว – แม้แมวจะเคลื่อนไหวช้าลง แต่ยังต้องการการออกกำลังกาย เช่น การเล่นกับของเล่นเบาๆ หรือจัดพื้นที่ให้ปีนป่ายได้ง่าย
- ดูแลสุขภาพฟัน – หมั่นเช็ดฟันหรือให้ขนมช่วยทำความสะอาดฟันเพื่อลดการสะสมของหินปูน
- จัดที่นอนให้อบอุ่นและนุ่มสบาย – แมวสูงวัยต้องการที่นอนที่ช่วยรองรับข้อต่อ ลดอาการปวดเมื่อย
สัญญาณที่ต้องปรึกษาสัตวแพทย์หากเจ้าของสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมหรือสุขภาพของแมวสูงวัย เช่น การกินอาหารน้อยลง พฤติกรรมการเดินผิดปกติ หรือมีอาการเจ็บปวด ควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือพาไปโรงพยาบาลสัตว์ที่มี Cat Friendly Clinic ที่มีคุณหมอเฉพาะโรคแมวทันทีเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น