โรคพิษสุนัขบ้า: รู้ทัน ป้องกันได้ ก่อนจะสายเกินไป

Last updated: 22 เม.ย 2568  |  186 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคพิษสุนัขบ้า: รู้ทัน ป้องกันได้ ก่อนจะสายเกินไป

รู้จักโรคพิษสุนัขบ้า: ศัตรูเงียบที่คร่าชีวิตคนและสัตว์ทั่วโลก

         โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสในกลุ่ม Lyssavirus ซึ่งอยู่ในวงศ์ Rhabdoviridae ไวรัสนี้สามารถติดเชื้อได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น สุนัข แมว วัว ค้างคาว หรือแม้แต่มนุษย์  โดยเชื้อจะเข้าสู่ระบบประสาทและทำให้เกิดการอักเสบของสมองอย่างรุนแรง และเมื่อเริ่มแสดงอาการแล้วมักเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว
         ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าเกือบทุกปี โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการถูก สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนกัด เช่น สุนัขจรจัดหรือแมวที่ปล่อยเลี้ยงอิสระ ทำให้ การฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า และ การควบคุมประชากรสัตว์เลี้ยง เป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของโรคนี้


อาการโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยง
สัตว์ที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าจะมีอาการที่แตกต่างกันไปตามระยะของโรค โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ:

  1. ระยะเริ่มแรก – สัตว์จะมีไข้ ม่านตาขยาย ตอบสนองต่อแสงน้อยลง กลืนอาหารผิดปกติ อารมณ์เปลี่ยน เช่น ก้าวร้าวหรือซึม
  2. ระยะตื่นเต้น – แสดงอาการไวต่อสิ่งเร้า เช่น เสียง แสง ลม มีน้ำลายไหลผิดปกติ ชักกระตุก กัดสิ่งของหรือคนโดยไม่มีเหตุผล
  3. ระยะอัมพาต – ไม่สามารถกลืนอาหารได้ ลิ้นห้อย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ทรงตัวไม่ได้ และตายในที่สุด
      รูปแบบอาการมี 2 ลักษณะ   คือ
  1.  แบบดุร้าย (Furious form) : มักพบในสุนัข แสดงอาการตื่นเต้นรุนแรงก่อนเสียชีวิต
  2.  แบบซึม (Paralytic form) : พบได้ในแมวมากกว่า แสดงอาการอัมพาตโดยไม่แสดงอาการรุนแรงในช่วงต้น


โรคพิษสุนัขบ้าในคน : อันตรายถึงชีวิต
         เมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ มักแสดงอาการภายใน 1-3 เดือน โดยเริ่มจากมีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย และคันรอบแผล จากนั้นพัฒนาเป็นอาการทางระบบประสาท เช่น กลัวน้ำ กลัวลม กลืนลำบาก จนเกิดอาการชัก หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด


การแพร่เชื้อและการติดต่อ
        ไวรัสพิษสุนัขบ้าจะถูกขับออกมากับน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ การติดต่อเกิดขึ้นได้จากการ ถูกกัด ข่วน หรือเลียบริเวณแผลเปิด การติดเชื้อจากคนสู่คนพบได้น้อยมาก แต่มีรายงานบางกรณีจากการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น กระจกตา


การตรวจวินิจฉัยโรคพิษสุนัขบ้า
         หากสัตว์ต้องสงสัยเสียชีวิต การตรวจยืนยันจะทำโดยวิธี Direct Fluorescent Antibody Test (dFA) จากตัวอย่างเนื้อสมอง ซึ่งเป็นมาตรฐานของ WHO และ OIE
         การตรวจ PCR หรือตรวจระดับแอนติบอดี (FAVN, ELISA) อาจใช้ร่วมกันได้ แต่ไม่สามารถใช้ยืนยันการป่วยในระยะเริ่มต้นได้เสมอ เพราะเชื้ออาจไม่แสดงตัวในตัวอย่างน้ำลายหรือไขสันหลังในช่วงต้นของโรค


วัคซีนพิษสุนัขบ้า: กุญแจสำคัญในการป้องกัน
     โปรแกรมวัคซีนสำหรับสัตว์เลี้ยง

  • สุนัขและแมว: ควรเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุ 2-4 เดือน
  • ฉีดกระตุ้นเข็มที่สอง: ภายใน 1 เดือนหลังเข็มแรก
  • ฉีดซ้ำทุกปี: อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
    แม้สัตว์จะเคยฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นซ้ำทุกปี เพื่อให้ระดับภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับปลอดภัย (≥ 0.5 IU/mL)

       ประเภทของวัคซีน
  • วัคซีนเชื้อตาย (Inactivated Vaccine) – ใช้ในสัตว์เลี้ยงทั่วไป มีความปลอดภัยสูง
  • วัคซีนเชื้อเป็นแบบกิน (Modified Live Virus) – ใช้ในสัตว์ป่า เช่น สุนัขจิ้งจอก
  • วัคซีน Recombinant (Vectored Vaccine) – ใช้เทคโนโลยี DNA ปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับพื้นที่เสี่ยง


การปฏิบัติเมื่อสัตว์เลี้ยงถูกกัด

  • ล้างแผลทันที ด้วยน้ำและสบู่อย่างน้อย 15 นาที
  • พาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจและประเมินความเสี่ยง
  • สัตว์ที่ได้รับวัคซีนอย่างสม่ำเสมออาจแค่กักตัวเพื่อสังเกต 45 วัน
  • สัตว์ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน ต้องกักตัวนาน 4-6 เดือน และฉีดวัคซีนทันทีภายใน 96 ชั่วโมง

การดูแลคนที่ถูกสัตว์กัด
  • ล้างแผลทันที ใส่ยาฆ่าเชื้อ
  • รับการฉีดวัคซีน PEP และ RIG โดยเร็วที่สุด
  • หากเสี่ยงสูง เช่น ทำงานกับสัตว์ ควรได้รับวัคซีนล่วงหน้าแบบ PrEP

เป้าหมาย “ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า” ปี 2030
องค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งเป้าให้ทั่วโลกปลอดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2030 แนวทางหลักคือ :

  • ฉีดวัคซีนในสุนัขให้ครอบคลุมอย่างน้อย 80% ของประชากรในพื้นที่
  • ควบคุมสัตว์จรจัดด้วยการทำหมัน ไม่ใช้ยาคุมกำเนิด
  • ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการป้องกันโรค

บทสรุป: ร่วมกันหยุดยั้งโรคพิษสุนัขบ้า เริ่มจากคุณ

       โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่ป้องกันได้ 100% หากเจ้าของสัตว์เลี้ยงใส่ใจในเรื่องวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ และรู้วิธีรับมือเมื่อตนเองหรือสัตว์เลี้ยงสัมผัสเชื้อ

           " เพราะความรักไม่ใช่แค่การดูแลทุกวัน แต่คือการป้องกันไม่ให้เกิดวันที่สายเกินไป "


หากคุณยังไม่แน่ใจว่าสัตว์เลี้ยงของคุณได้รับวัคซีนครบหรือไม่ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า
ติดต่อเราได้ที่
  https://lin.ee/HHtpOR9  
หรือแวะมาตรวจสุขภาพและรับวัคซีนได้ที่ โรงพยาบาลสัตว์เศรษฐกิจสัตวแพทย์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้