ภาวะแทรกซ้อนในสุนัขหลังเกิดภาวะลมแดด: เจ้าของต้องรู้ก่อนจะสายเกินแก้

       ภาวะลมแดดไม่ใช่แค่การ "ตัวร้อน" ชั่วคราว แต่ทำให้เกิด “การล้มเหลวของเซลล์ทั่วร่างกาย” จากความร้อนสูงจัด ซึ่งภาวะแทรกซ้อนมักไม่แสดงอาการทันที แต่จะลุกลามแบบเงียบๆ สถิติจาก American Veterinary Medical Association (AVMA) พบว่า 50% ของสุนัขที่รอดจาก Heat Stroke จะมีภาวะแทรกซ้อนภายใน 24–72 ชั่วโมง!

7 ระบบร่างกายที่โดนผลกระทบจากโรคลมแดด

1. สมอง : เกิดการตายของเซลล์ประสาท มีภาวะสองบวม เลือดออกในสมอง
2. ระบบหัวใจและหลอดเลือด : ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ไหลเวียนลดลง ความดันโลหิตต่ำ และเข้าสู่ภาวะช็อค
3. ปอด : เกิดความเสียต่อเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดปอดอาจทำให้เกิดอาการ บวมน้ำในปอด และมีกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน
4. การแข็งตัวของเลือด : เกิดความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดมีภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด (DIC) ทำให้เกิดจุดจ้ำเลือดออกทั้งทั่วตัว เกิดปัญหาเม็ดเลือดแดงแตกง่าย
5. ระบบทางเดินอาหาร : มักเกิดตามมาจากผลกระทบกับระบบหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเป็นเวลานาน มีภาวะเลือดไหลเวียนน้อย และส่งผลทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆน้อยลง ส่งผลให้ความสมบูรณ์ของทางเดินอาหารลดลงและกระตุ้นเซลล์อักเสบไปทำลายเยื่อบุทางเดินอาหารเพิ่มขึ้น เพิ่มการซึมผ่านของเยื่อบุทางเดินอาหารอาจส่งผลให้แบคทีเรียและผลิตภัณฑ์จากแบคทีเรีย เช่น เอนโดทอกซิน เคลื่อนย้ายได้ เกิดภาวะเลือดออกทางเดินอาหารและติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งจะซ้ำเติมภาวะร่างกายขาดเลือด เกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตในที่สุด
6. ตับ : เชลล์ตับถูกทำลาย เป็นผลกระทบจากความร้อนของอุณหภูมิร่างกายที่สูงเกิน 42°C และเกิดจากการไหลเวียนเลือดที่ลดลง ซ้ำยังต้องทำงานหนักในการขจัดพิษของแบคทีเรียที่อยู่ในกระแสเลือดอีก ส่งผลทำให้ร่างกายมีภาวะการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติเกิดเลือดแข็งตัวในหลอดเลือดแบบแพร่กระจาย ( DIC ) และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
7. ไต : เซลล์ไตถูกทำลาย เป็นผลกระทบจากความร้อนโดยตรงและการไหลเวียนเลือดที่ลดลงซึ่งเหมือนกับเซลล์ตับที่ถูกทำลาย และยังต้องรับผลกระทบจากปัญหาอื่นๆที่เกิดขึ้นแล้วมีผลทำให้เกิดความเสียหายของเนื้อเยื้อไต และท่อที่เกี่ยวกับการกรองของไตอีกด้วย ทำให้เกิดปัญหาไตวายเฉียบพลัน

          ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะลมแดด หรือ Heat Stroke ป้องกันไม่ได้ด้วยการดูแลที่บ้าน แต่สุนัขควรอยู่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 24–72 ชั่วโมง และสัตวแพทย์จะนัดตรวจซ้ำทุก 3–7 วัน เพื่อดูว่าค่าเลือดกลับมาเป็นปกติหรือไม่